Friday, December 14, 2012

Speaking in Tongues


"เมื่อเราอธิษฐานภาษาแปลกๆ จะก่อให้เกิดปฏิกริยาทางเคมีในสมอง และเมื่อเราเริ่มอธิษฐานภาษาแปลกต่อเนื่องไปเรื่อยๆ สมองจะหลั่งสารเคมีสารเคมีออกมา 2 ชนิด ซึ่งจะมีผลต่อการเพิ่มขึ้นของภูมิคุ้มกัน 35% ถึง 40% สารเคมีนี้ หลั่งจากสมองโดยตรง เฉพาะเมื่อมีการอธิษฐานภาษาแปลกๆ"

- Dr. Carl Peterson, a brain specialist at Oral Roberts University in Tulsa, Oklahoma, USA -

Friday, July 13, 2012

Your Miracle is on the Way.


Mark 9:25-26 25When Jesus saw that the people came running together, He rebuked the unclean spirit, saying to it, "Deaf and dumb spirit, I command you, come out of him and enter him no more!" 26 Then the spirit cried out, convulsed him greatly, and came out of him. And he became as one dead, so that many said, "He is dead." (NKJ)


มก 9:25-26 25 เมื่อพระเยซูทรงเห็นประชาชนกำลังวิ่งเข้ามา พระองค์ตรัสสำทับผีโสโครกนั้นว่า "อ้ายผีใบ้หูหนวก เราสั่งเอ็งให้ออกจากเขา อย่าได้กลับเข้าสิงเขาอีกเลย" 26 ผีนั้นจึงร้องอื้ออึงทำให้เด็กนั้นชักดิ้นเป็นอันมาก แล้วก็ออกมา เด็กนั้นก็แน่นิ่งเหมือนคนตาย จนคนส่วนมากที่นั่นกล่าวว่า "เขาตายแล้ว"

เด็กที่ถูกผีสิงคนนี้ ถูกสิงมายาวนานตั้งแต่เขาเป็นเด็ก (มก 9:21) จนกระทั่งวันนี้ ที่บิดาของเขา พาเขามาหาพระเยซู ในข้อ 25 พระเยซูด้วยสิทธิอำนาจ พระองค์ขับผีร้ายให้ออกจากเด็กคนนี้ และสั่งไม่ให้มันกลับเข้าสิงเด็กคนนี้อีกต่อไป


ความน่าสนใจของเหตุการณ์นี้ อยู่ในข้อ 26 หลังจากที่ผีร้ายโดนพระเยซูตรัสสำทับ ก่อนที่มันจะออกจากเด็ก พระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า ผีทำให้เด็กชักและดิ้นเป็นอันมาก พระคัมภีร์ภาษาอังกฤษใช้คำว่า "greatly" ด้วยสายตาฝ่ายกายภาพ เหมือนกับว่า อาการของเด็กทรุดและแย่ลง แต่ความจริงก็คือ นี่คืออาการดิ้นเฮือกสุดท้ายของผีโสโครก ก่อนที่จะออกจากเด็ก และไม่เคยกลับเข้าสิงเด็กคนนี้อีกเลย


ข้อคิดสองอย่างที่ได้จากพระคัมภีร์ตอนนี้ก็คือ...

ข้อคิดแรก หลายครั้งสถานการณ์ที่แย่ที่สุด ปัญหาที่เลวร้ายที่สุด ที่เรากำลังเผชิญอยู่ คือจุดเริ่มต้นของอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่เรากำลังรอคอย อัศจรรย์จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อเรามาหาพระเยซู เพราะพระองค์ทรงรักเรา รักมากที่สุด สิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อเราบนไม้กางเขน คือเครื่องยืนยันถึงความรักที่พระองค์ทรงมีต่อเรา

ข้อคิดที่สองจากพระคัมภีร์ตอนนี้ก็คือ ไม่มีผีร้ายตนไหน หรือปัญหาไหน จะใหญ่เกินกว่าที่พระเยซูจะช่วยเราได้ แม้ปัญหา หรือความท้าทายนั้น จะดูเหมือนเรื้อรัง และรบกวนเรามายาวนานก็ตาม เฉกเช่นเดียวกับที่ ผีโสโครกตนนี้ รังควานเด็กมาตั้งแต่เขายังเยาว์วัย พระเจ้าใหญ่ยิ่ง เหนือกว่าปัญหาของเราเสมอ แม้ว่าปัญหานั้น จะเกิดจากความผิดพลาดของเราก็ตาม ขอแค่เรากลับไปหาพระเยซู เชื่อมั่นในความดี และความรักที่พระองค์ทรงมีต่อเรา ทุกปัญหา และทุกความท้าท้าย ในชีวิตของเรา จะสยบลงต่อพระเยซูอย่างแน่นอน

God is the author of peace not of confusion.

1 Cor 14:33 For God is not the author of confusion but of peace, as in all the churches of the saints. (NKJ)


1คร 14:33 เพราะว่าพระเจ้าไม่ใช่พระเจ้าแห่งการวุ่นวาย แต่ทรงเป็นพระเจ้าแห่งสันติสุข ตามที่ปฏิบัติกันอยู่ในคริสตจักรแห่งธรรมิกชนนั้น

มีคำสอนเรื่อง การรับการทรงนำจากพระเจ้าว่า พระเจ้าใช้สันติสุขในการนำเรา คำสอนนี้ ดูเผินๆ เหมือนจะดี

แต่ถ้าเราใคร่ครวญ (meditate) คำสอนนี้ดูดี จะพบว่า มันขัดกับตรรกะ (logic) ในพระคัมภีร์ และไม่ make sense ในตัวเอง หรืออีกนัยหนึ่ง คำสอนนี้ บอกเราอ้อมๆ ว่า ปรกติชีวิตคริสเตียน อยู่ในความวุ่นวาย สับสน เวลาพระเจ้านำเรา ไปทิศทางไหน พระองค์จะให้เกิดสันติสุขในทิศทางนั้น เนื่องจากปรกติชีวิตเราอยู่ในความสับสน อลหม่าน พอเกิดสันติสุข เราจึงรู้ว่า ทิศทางนี้ หรือทิศทางนั้นมาจากพระเจ้า

มันขัดกับตรรกะของพระคัมภีร์ตรงที่ว่า ผู้เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ทุกคน เป็นพระวิหารขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าทรงประทับ "อยู่ภายในเรา" เมื่อพระเจ้า "แห่งสันติสุข" ทรงสถิต และประทับอยู่ภายในเราแล้ว เหตุไฉน ปรกติชีวิตของเรา จึงอยู่ในความวุ่นวาย และสับสนเล่า ไม่ make sense

ถ้าจะว่ากันตามตรรกะของพระคัมภีร์แล้ว ชีวิตปรกติของผู้เชื่อ ควรจะเดินอยู่ในสันติสุข ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น คำสอนที่น่าจะ logically ที่สุด กลับตรงกันข้ามกับคำสอนดังกล่าว ชีวิตปรกติของผู้เชื่อ พึงเดินอยู่ในสันติสุขตลอดเวลา ทิศทางไหน ที่ทำให้ผู้เชื่อสูญเสียสันติสุข ผู้เชื่อพึงระมัดระวัง เพราะพระเจ้าของเรา ทรงเป็นพระเจ้าแห่งสันติสุข หาใช่พระเจ้าแห่งความสับสนวุ่นวายไม่

Our God is the author of peace not of confusion.

When we see Jesus in His Grace, God see us in our FAITH.



But Jesus turned around, and when He saw her He said, “Be of good cheer, daughter; your faith has made you well.” And the woman was made well from that hour. (Matthew 9:22 NKJV)

ข้อน่าสังเกตอย่างหนึ่งก็คือ คนที่มีประสบการณ์อัศจรรย์กับพระเยซู จุดสนใจของพวกเขา ไม่ได้อยู่ใน "ความเชื่อ" ที่พวกเขามี ว่ามากหรือน้อยเพียงพอที่จะได้รับอัศจรรย์หรือไม่? หากแต่จุดสนใจของพวกเขา ต่างอยู่ที่ "พระเยซู"

จุดร่วมกันอย่างหนึ่งของพวกเขา ก็คือ พวกเขาต่างเห็นพระเยซู ผู้เต็มไปด้วยพระคุณ และเต็มไปด้วยความรัก พระองค์ผู้ซึ่งรักษาทุกคนที่ไปหาพระองค์ เพื่อรับความช่วยเหลือ พระเจ้าทรงเรียกการที่พวกเขาเห็นพระเยซูเช่นนั้นว่า "ความเชื่อ" ผลที่ตามมาก็คือ อัศจรรย์เกิดขึ้นกับพวกเขา

When we see JESUS in His Grace and Love, God see us in our Faith. Then, the miracle we need is the miracle we get.

Ps 23:1 The LORD is my shepherd; I shall not want. (NKJ)
สดด 23:1 พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน

Thursday, June 28, 2012

Beholding JESUS


มีคนกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เปโตรเดินบนน้ำแล้วจมว่า สาเหตุที่เขาจม เพราะเขาไปมองดูคลื่นลมในทะเล แต่ความจริงก็คือ ต่อให้ฟ้าโปร่ง อากาศดี ไม่มีคลื่นลม เขาก็จมอยู่ดี เพราะเขาไม่สามารถเดินบนน้ำได้ ที่เขาเดินบนน้ำได้ เพราะตาเขามองดูพระเยซู เมื่อตาเขามองดูพระเยซู เขาเริ่มเหนือธรรมชาติเหมือนกับพระองค์

จงมองไปที่พระเยซูเถิด พระองค์ทรงเป็นคำตอบ ของทุกคำถาม และทุกสิ่งในชีวิตของท่าน พระเยซูทรงรักท่าน

เมื่อเรามองกลับไปที่ไม้กางเขนโบราณ ที่กลโกธา ไม่มีคำถามอีกแล้วว่า พระเจ้ารักเรามากแค่ไหน พระองค์รักเรามาก และไม่เคยที่จะหยุดรักเรา

พี่น้องที่รัก ท่านเป็นที่รักของพระเจ้าเสมอ พระองค์ทรงรักท่าน ในสภาพที่ท่านเป็น That's our JESUS.

Tuesday, June 12, 2012

Invisibility is Eternity

while we do not look at the things which are seen, but at the things which are not seen. For the things which are seen are temporary, but the things which are not seen are eternal. (2 Corinthians 4:18 NKJV)

Invisibility doesn't mean inexistency yet it does mean "ETERNITY"

สิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา มิได้หมายความว่า สิ่งนั้นไม่มีตัวตน แต่หมายความว่า สิ่งนั้น "ถาวรนิรันดร์"

The LORD is merciful and gracious.

Ps 103:8 The LORD is merciful and gracious, slow to anger, and abounding in mercy. (NKJ)
สดด 103:8 พระเจ้าทรงพระกรุณาและมีพระคุณ ทรงกริ้วช้าและอุดมด้วยความรักมั่นคง

พระเจ้าของเรา พระองค์ทรงอุดมด้วยพระกรุณา และเต็มล้นด้วยพระคุณ

พระกรุณา (Mercy) - "เราไม่ต้องรับในสิ่งที่เราสมควร"
พระองค์ไม่ลงโทษเรา ในสิ่งที่เราสมควร มากไปกว่านั้น พระเยซูทรงรับโทษแทนเรา โทษทัณฑ์ที่เป็นของเรา ที่เราสมควรได้รับ พระองค์ทรงรับทั้งหมดแทนเรา

พระคุณ (Grace) - "เราได้รับในสิ่งที่เราไม่สมควร"
พระองค์ให้ความรอด ให้สิทธิเป็นบุตรของพระเจ้า และให้พระพรทั้งหลายทั้งปวง ที่มาพร้อมกับสิทธิการเป็นบุตรของพระเจ้ากับเรา

Mercy rejoices over judgment

James 2:13 ... mercy rejoiceth against judgment. (KJV)
ยก 2:13 ...ความกรุณาย่อมมีชัยเหนือการพิพากษา

หัวใจของพระเจ้า คือประทานความกรุณา มิใช่พิพากษาลงโทษ

พระเจ้าทรงพระกรุณา เต็มล้นด้วยพระคุณ และอุดมด้วยความรักมั่นคง นี่แหละพระเจ้าที่เราเชื่อ และติดตามพระองค์

Wednesday, June 6, 2012

You are Highly Favored.

อฟ 1:6 เพื่อจะให้เป็นที่สรรเสริญพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ซึ่งทรงโปรดประทานแก่เราในพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นที่รักของพระองค์

Eph 1:6 to the praise of the glory of His grace, by which He has made us accepted in the Beloved. (NKJ)

คำว่า "accepted" คำนี้ มาจากคำภาษากรีกว่า "Charitoo" มีความหมายว่า "be highly favored"

พระคัมภีร์เอเฟซัสบทที่ 1 ข้อ 3-14 อาจารย์เปาโลพูดถึงพระพรฝ่ายวิญญาณในพระเยซูคริสต์ หนึ่งในพระพรฝ่ายวิญญาณ ที่เป็นของเราแล้วในวันนี้ ในข้อ 6 ก็คือ "ความโปรดปรานสูงสุด (Highly Favored)" จากพระเจ้า

พี่น้องที่รัก ความโปรดปรานของพระเจ้า ระดับสูงสุด อยู่กับท่านแล้ววันนี้ ไม่ว่าท่านจะจับต้องอะไร จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากประสบความสำเร็จ

You are "HIGHLY FAVORED."

Your miracle manifests when you are at "REST"

Your miracle manifests when you are at "REST."

... Do not be afraid. Stand still, and see the salvation of the Lord, which He will accomplish for you today... (Exodus 14:13 NKJV)


อัศจรรย์ที่ท่านรอคอย เกิดขึ้นเมื่อท่านพักสงบในพระเจ้า

... อย่ากลัวเลย มั่น‍คงไว้ คอยดูความรอดที่จะมาจากพระ‍เจ้า ซึ่งพระ‍องค์จะประ‌ทานให้แก่ท่านทั้ง‍หลายในวัน‍นี้... (อพ‌ยพ 14:13 TH1971)

Old Testament & New Testament "Last Word"

พระคัมภีร์เดิม (Old Testament) จบลงด้วยคำว่า "คำแช่งสาป (curse)" มลค 4:6

ในขณะที่พระคัมภีร์ใหม่ (New Testament) จบลงด้วยคำว่า "ขอให้พระคุณแห่งพระเยซูเจ้า จงดำรงอยู่กับธรรมิกชนทั้งหลายเถิด อาเมน (the grace of our Lord Jesus Christ be with you all. Amen)" วิวรณ์ 22:21

ก่อนพระเยซูเสด็จมา แผ่นดินเต็มไปด้วยคำแช่งสาป หลังพระเยซูเสด็จมา และทำพระราชกิจของพระองค์สำเร็จ (ยน 19:30) แผ่นดินเต็มล้น ไปด้วยพระคุณความรักของพระเจ้า

Right living is a result of right believing

For as he thinks in his heart, so is he...(Proverbs 23:7 NKJV)

Right living is a result of right believing.

Focus not your condition but "Position"

What the devil wants to do then is to get you to focus on your condition instead of your position in Christ.

มารซาตานอยากให้เราจดจ่อที่ "สถานการณ์" แทนที่จะเป็น "สถานะ" ในพระคริสต์ของเรา

Belong not to the nature but to God

You don’t belong to the natural, limited realm. You belong to God who is unlimited!

ท่านไม่ได้อยู่ภายใต้ฝ่ายธรรมชาติที่จำกัดอีกต่อไป แต่อยู่ภายใต้พระเจ้าผู้ไร้ความจำกัด

Good things happen to those who believe that God loves them.

Good things happen to those who believe that God loves them.

Simplistic belief leads to blessings.

Give thanks to the Lord, for he is good; his love endures forever. (1 Chronicles 16:34 NIV)

เคล็ดลับการดำเนินชีวิตในสารพัดพระพรของพระเจ้า ซ่อนอยู่ในความเรียบง่าย ของความเชื่อที่ว่า "พระเจ้าดี และพระองค์รักเรา"

Goliath made David famous.


Goliath made David Famous!!! Fear Not When a Giant comes into your Way. God is with You.

โกลิอัทสร้างชื่อให้กับดาวิด เชื่อและวางใจในพระเจ้า เมื่อยักษ์ผ่านเข้ามาในชีวิตของท่าน พระเจ้าสถิตอยู่กับท่าน

Restore rather than Condemn

Sins carry its own punishment. So, don't quick to condemn but to restore.

Believe then You will See

Sing, O barren, Sing, O barren, You who have not borne! Break forth into singing, and cry aloud, You who have not labored with child! For more are the children of the desolate Than the children of the married woman, says the Lord. (Isaiah 54:1 NKJV)

God's Way is "NOT" See First then Rejoice but "Believe/Rejoice" First then You will See.


“จงร้อง‍เพลงเถิด โอ หญิง‍หมันเอ๋ย ผู้ไม่คลอดบุตร
จงเปล่ง‍เสียงร้อง‍เพลงและร้องให้ดัง
เจ้าผู้ไม่‍ได้เจ็บครรภ์
ด้วยว่าบุตรของแม่‍ร้างก็ยังจะมีมาก‍กว่า
บุตรของนางที่แต่ง‍งาน พระ‍เจ้าตรัสดัง‍นี้ (อิส‌ยาห์ 54:1 TH1971)

ทางของพระเจ้า "ไม่ใช่" ชื่นชมยินดีหลังจากได้เห็นแล้ว แต่ "เชื่อ/ชื่นชมยินดี" ก่อน แล้วเราจะได้เห็น

Bible "HOPE"

"HOPE" in the Bible means "Expectancy of Good."

Monday, June 4, 2012

ดำเนินชีวิตในพระพร

พระเจ้าประสงค์ให้เราดำเนินชีวิตแห่งพระพร เพราะพระพร คือส่วนหนึ่งของมรดก ที่แสดงว่าเราเป็นบุตรของพระองค์ ด้วยงานที่สำเร็จแล้วของพระเยซูบนกางเขน ทำให้เรามีคุณสมบัติครบถ้วน ที่จะได้รับสารพัดพระพรของพระเจ้า และสำเร็จผลเป็นอย่างดี

Saturday, May 26, 2012

From Bethlehem to Hebron


ชีวิตของดาวิดเริ่มต้นจากเด็กเลี้ยงแกะที่ต้อยต่ำในเบธเลเฮม จาก Mr. Nobody ในสายตามนุษย์ ท่ามกลางพี่น้องแปดคน ดาวิดเป็นลูกที่ปลายแถวที่สุด ไปสู่การเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์อิสราเอล