Monday, January 14, 2013

God's Fingerprints in the Life of King David


เมื่อมองย้อนกลับไปในชีวิตของกษัตริย์ดาวิดแล้ว สิ่งที่เราเห็นก็คือ "รอยนิ้วพระหัตถ์" ของพระเจ้าที่อยู่เต็มไปหมดในชีวิตของเขา จากลูกคนเล็กที่พ่อไม่ปลื้ม สู่การเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติของชนชาติอิสราเอล


เจสซีบิดาของดาวิด เป็นบุตรชายคนเดียว ของโบอาส และรูธ (นรธ 4:17) เจสซีมีลูกทั้งหมด 8 คน โดยดาวิดเป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัว ถ้าจะว่าไปแล้ว ดาวิดไม่ใช่ลูกคนโปรดของเจสซี เมื่อครั้ง พระเจ้าทรงใช้ผู้เผยพระวจนะซามูเอล มาเจิมแต่งตั้ง บุตรชายคนหนึ่ง ในครอบครัวของเจสซี ให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ สืบราชบัลลังก์ต่อจากกษัตริย์ซาอูล

เจสซีเรียกลูกทุกคน ยกเว้นดาวิด ให้มาพบกับซามูเอล แต่พระเจ้าบอกกับซามูเอลว่า ไม่ใช่คนเหล่านี้ จนซามูเอล ต้องถามกับเจสซีว่า บุตรชายของท่านอยู่ที่นี่หมดแล้วหรือ? (1ซมอ 16:11) เป็นไปได้ว่า ดาวิดไม่ใช่ลูกคนโปรด ที่คุณพ่อปลื้ม เมื่อเทียบกับพี่น้องคนอื่นๆ อีก 7 คน

พี่น้องที่รัก แม้ว่าวันนี้ ท่านอาจไม่ใช่ลูกคนโปรด ที่คุณพ่อคุณแม่ปลื้ม พ่อแม่อาจด้วยความไม่ตั้งใจ เปรียบเทียบท่านกับพี่น้องในครอบครัวว่า ท่านสู้พี่ หรือน้องไม่ได้ ท่านด้อยกว่า พวกเขาอย่างไร? ท่านเรียนหนังสือไม่เก่งเท่ากับพวกเขา หรืองานที่ทำ ก็หาเงินได้น้อยกว่าพี่ๆ น้องๆ ของท่าน ท่านต้องได้ยินประโยคที่ทำให้ท่านเสียใจ ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

วันนี้พระเจ้าอยากจะหนุนใจท่าน ผ่านเรื่องราวของกษัตริย์ดาวิดว่า สิ่งที่ดูเหมือนเป็นข้อจำกัด หรือข้อด้อยของท่าน ไม่ใช่อุปสรรคปัญหาสำหรับพระเจ้า ตรงกันข้าม ความจำกัดของท่าน คือโอกาสของพระเจ้าที่จะสำแดงพระคุณของพระองค์ ให้เป็นที่ประจักษ์ จงวางความหวังใจทั้งหมดของท่านไว้ที่พระเจ้า เพราะผู้ที่เชื่อและวางใจในพระองค์ จะไม่ผิดหวัง หรือเสียใจเลย

พระเจ้าทรงเลือกคนที่โลกถือว่าโง่เขลา เพื่อทำให้คนมีปัญญาอับอาย และได้ทรงเลือกคนที่โลกถือว่าอ่อนแอ เพื่อทำให้คนที่แข็งแรงอับอาย พระเจ้าได้ทรงเลือก สิ่งที่โลกถือว่าต่ำต้อย และดูหมิ่น และเห็นว่าไร้สาระ เพื่อทำลายสิ่งซึ่งโลกเห็นว่าสำคัญ (1 คร 1:26-28)

ดาวิดไม่เคยเก็บ เอาสิ่งเหล่านั้น มาคิด และมาบั่นทอนตัวเอง ดาวิดไม่เคยตัดพ้อ น้อยใจ จนเป็นเหตุให้มีปากเสียงกับบิดามารดาของเขา และดาวิดก็ไม่เคยมานั่งจมปรักอยู่ในปาร์ตี้ความท้อแท้ และก็ท้อใจ


ตรงกันข้าม หนุ่มน้อยดาวิด ดำเนินชีวิตโดยตระหนักว่า พระเจ้าทรงดูแลชีวิตของเขาอยู่ เขาดำเนินชีวิตตามปรกติ มีความสุข Enjoy กับงานที่พ่อ มอบหมายให้เขาทำ คือการเลี้ยงแกะ ช่วงเวลาที่ แกะกำลังกินหญ้า ดาวิดได้ใช้เวลาช่วงนั้น ประพันธ์บทเพลงมากมาย ที่แสดงออกถึงความรักและความดีที่พระเจ้าทรงมีต่อเขา หนึ่งในบทเพลงสดุดีของดาวิดที่กินใจมาก แม้ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยมานับพันๆ ปีแล้ว ก็คือ สดุดีบทที่ 23 พระเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ขัดสนสิ่งดีอันใดเลย

Ps 23:1 The LORD is my shepherd; I shall not want. (NKJ)

พี่น้องที่รัก เมื่อพระเจ้าอยู่ในชีวิตของเรา ทุกสิ่ง และก็ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา ไม่มีอะไรที่บังเอิญ แม้ว่าวันนี้ เราอาจไม่เข้าใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป แล้วเรามองย้อนกลับมา เราจะเข้าใจ ถึงแผนการอันดีเลิศของพระเจ้า แผนการเพื่อสวัสดิภาพของเรา

เพลงที่ดาวิดแต่งให้กับพระเจ้า ว่าไปแล้ว ก็มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ได้รู้ ได้เห็น และก็ได้ยิน แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว


พระเจ้าทรงพอพระทัยเพลงที่ดาวิดแต่งให้กับพระองค์ พระองค์จึงอยากให้คนอื่นๆ ได้ฟังด้วย และพระเจ้าเอง เป็นผู้เปิดประตูแห่งโอกาสออกให้กับดาวิด พระองค์ทรงเปิด Floor ให้กับดาวิด ได้แสดงความสามารถ ได้บรรเลงบทเพลงที่ไพเราะเหล่านั้น ต่อหน้ากษัตริย์ซาอูล ซึ่งตอนนั้นถูกวิญญาณชั่วเข้าสิง เรียกได้ว่า คอนเสิร์ตครั้งแรกของดาวิด พระเจ้าทรงให้เขา ได้แสดงต่อหน้ากษัตริย์

พี่น้องที่รัก จงวางใจในความรักมั่นคง ความสัตย์ซื่อ และความดีของพระเจ้า พระเจ้าจะเป็นคนเปิดโอกาส ให้ท่านได้แสดงความสามารถ ทักษะหลายๆ อย่าง ทีพระเจ้าได้ใส่ไว้ในชีวิตของท่าน จะไม่เสียของอย่างแน่นอน ถ้าพระเจ้าไม่ทรงสร้างบ้าน คนงานตื่นอยู่ก็เหนื่อยเปล่า

พระเจ้าเองเป็นคนส่งผู้เผยพระวจนะซามูล มาเจิมดาวิดให้เป็นกษัตริย์ถึงบ้าน ดาวิดไม่ได้เป็นคนเสนอตัว วิ่งหาซามูเอล พระเจ้าทรงรู้ พระองค์ทรงเห็น และพระองค์ทรงรักเรา วันนี้พระองค์ไม่เพียงแต่เป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ของเรา พระองค์ยังทรงเป็น อับบา เป็นคุณพ่อ ที่รักเรามากอีกด้วย


หลังจากที่ซามูเอลเจิมแต่งตั้งดาวิดเป็นกษัตริย์แล้ว ดาวิดก็ยังคงเป็นดาวิดคนเดิม เขายังคงออกไปเลี้ยงแกะ เช่นเดิม การได้รับการเจิมเป็นกษัตริย์หาได้ เปลี่ยนดาวิด ให้กลายเป็นใครก็ไม่รู้ เขายังคงเป็นดาวิดคนเดิม พระเจ้าทรงเป็นทุกสิ่ง พระองค์ทรงเป็นทุกอย่าง และพระองค์ทรงเป็นความมั่นคงในชีวิตของดาวิด เช่นเดิม


พระเจ้าไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น พระองค์ทรงยกดาวิดสูงขึ้นทางเดียว ไม่มีต่ำลง พระหัตถ์ของพระเจ้า ค่อยๆ นำพา และยกชูให้ดาวิดสูงขึ้น พระเจ้าทรงเลือกดาวิดเป็นกษัตริย์แล้ว พระองค์ทรงรู้ว่า ดาวิดจำเป็นที่ต้องได้รับการยอมรับ จากประชาชนคนอิสราเอล พระเจ้าทรงเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส สำหรับดาวิด พระเจ้าทรงใช้โกลิอัท ยอดนักรบอันดับหนึ่งของฟีลิสเตีย ที่มาท้าทายกองทัพอิสราเอล เป็นบันได สร้างเครดิต และการยอมรับให้กับดาวิด

โดยที่ดาวิดหารู้เลยไม่ว่า วันที่เขาเอาอาหารไปส่งให้กับพี่ชายที่กองทัพ จะเป็นวันดีเดย์ ที่พระเจ้าจะยกชูเขาขึ้น ให้เขาเป็นที่ยอมรับของคนทั้งปวง ไม่ใช่แค่เพียงคนอิสราเอล พระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า แม้แต่คนฟีลิสเตีย ซึ่งเป็นศัตรูก็ยอมรับ และหวาดกลัวดาวิดเป็นอย่างยิ่ง

พระเจ้าสามารถเปลี่ยนงานส่งอาหารที่ดูเหมือนต่ำต้อยของดาวิด ให้กลายเป็นบันได ไปสู่การมีชื่อเสียง และการยอมรับ พระเจ้าเป็นคนเปิดเวทีออกให้กับดาวิด ครั้งแล้ว ครั้งเล่า นับครั้งไม่ถ้วน ชีวิตของดาวิด ทุกจังหวะจะโคนเต็มไปด้วยรอยพระหัตถ์ของพระเจ้า (God's Fingerprints) อย่ามองข้าม และดูถูกสิ่งเล็กน้อย ที่ท่านกำลังทำมันอยู่ เพราะงานที่เล็กน้อย หรือที่ดูต่ำต้อยในสายตาของคนรอบข้าง พระเจ้าสามารถใช้มัน เป็นบันได ที่จะยกชูท่านขึ้น ไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ เหมือนกับที่พระองค์ทรงทำมาแล้ว ในชีวิตของดาวิด

โลกบอกว่า เริ่มต้นดี มีชัยไปแล้วกว่าครึ่ง ทุกคนล้วนแล้วแต่อยากเริ่มต้นดีด้วยกันทั้งสิ้น ถ้าเลือกได้ ไม่มีใครอยากเริ่มต้นแย่ แต่ในความเป็นจริง ด้วยเหตุผลต่างต่างนานา ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเริ่มต้นหรูได้ แต่แม้ว่าจุดเริ่มต้นของท่าน อาจไม่ได้สวยหรู แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรค เพราะเหตุว่า ไม่มีที่ไหน ที่พระคุณความรัก และความดีของพระเจ้า จะส่องไปไม่ถึง

ฟป 1:6 ข้าพเจ้าแน่ใจว่าพระองค์ผู้ทรงตั้งต้นการดีไว้ในพวกท่านแล้ว จะทรงกระทำให้สำเร็จจนถึงวันแห่งพระเยซูคริสต์

Phil 1:6 And I am sure that God who began the good work within you will keep right on helping you grow in his grace until his task within you is finally finished on that day when Jesus Christ returns. (TLB)

การดีในชีวิตของเรา เริ่มต้นขึ้นที่พระเจ้า พระองค์ทรงสัตย์ซื่อ เมื่อพระองค์ทรงเริ่มต้นการดีในชีวิตของเราแล้ว พระองค์ก็จะเป็นผู้กระทำ ให้การดีนั้นสำเร็จ การดีในชีวิตของเราจะสำเร็จอย่างแน่นอน มิใช่เพราะเราเจ๋ง แต่เพราะพระเจ้าของเราทรงสัตย์ซื่อ

ขอให้เราดำเนินชีวิตวันต่อวัน ด้วยความเชื่อมั่นในพระคุณ ความรัก และความสัตย์ซื่อที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา เพราะเหตุว่า สิ่งดีดีจะเกิดขึ้นเสมอๆ กับคนที่เชื่อมั่นในความดีของพระเจ้า

No comments:

Post a Comment